วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ห้องประชุมยะลายาลอ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดยะลา ศาลากลางจังหวัดยะลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน บำรุง รักษา พัฒนา ฟื้นฟู บูรณะแหล่งน้ำศักดิ์สิทธ์ โดยมีปลัดจังหวัดยะลา โยธาจังหวัดยะลา ท้องถิ่นจังหวัดยะลา ประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมภาคีเครือช่ายในพื้นที่ ร่วมดำเนินการบำรุงรักษา พัฒนา ฟื้นฟู บูรณะเเหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการประกอบพลีกรรมตักน้ำในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
หลังเสร็จจากประชุมดังกล่าว คณะฯได้ลงพื้นที่สถานที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ อยู่ภายในถ้ำมืดของวัดคูหาภิมุข ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งแหล่งน้ำมีชื่อว่า “สระแก้ว”
โดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าถ้ำ เจ้าของพื้นที่ นำโยธาจังหวัดยะลา และคณะทำงาน บำรุงรักษา พัฒนาฟื้นฟูแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ สำรวจตั้งแต่ต้นทางเดิน ระหว่างทางไม่ให้มีการปิดบังทัศนียภาพ ความปลอดภัยภายในถ้ำ ทางเดินมีแสงสว่างเพียงพอเพื่อชมมหัศจรรย์ธรรมชาติภายในถ้ำ และจุดทางเดินเข้าไปถึงบริเวณสระน้ำ ฟื้นฟู บูรณะให้ดูใหม่ เพื่อใช้ในการประกอบพลีกรรมตักน้ำในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และยกระดับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์อันเกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของอนุชนรุ่นหลัง ต่อไป
“สระแก้ว เป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ เกิดขึ้นตามธรรมชาติภายในถ้ำมืด วัดคูหาภิมุข อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งน้ำในสระแก้วจะใสสะอาดและเย็น เชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเมื่อเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำจะนำน้ำจากสระแก้วมาประพรมบนศีรษะ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ซึ่งในอดีตเมื่อมีพิธีบรมราชาภิเษก จังหวัดยะลา จะนำน้ำจากสระแก้ว ไปทำพิธีปลุกเสกเป็นน้ำพระพุทธมนต์ส่งไปให้ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปผสมกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อื่น ๆ สำหรับมุรธาภิเษกด้วยน้ำจากสระแก้วศักดิ์สิทธิ์ ถูกนำไปใช้ในวาระต่าง ๆ หลายครั้ง “ ผวจ.ยะลา กล่าว